ช่วง COVID-19 ระบาดรอบที่ 2 เราทุกคนคงจำเป็นต้องกักตัวอยู่บ้านกันไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หากมองเรื่องของสุขภาพผิว การอยู่แต่ในบ้านก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ในความจริงแล้ว แม้ว่าเราไม่ต้องออกเดินทางไปเจอมลภาวะทุกวันเหมือนแต่ก่อน แต่ไลฟ์สไตล์การอยู่บ้านก็อาจทำให้ผิวเสียได้ ถ้าเราดูแลผิวกายและผิวหน้าไม่ถูกวิธี วันนี้ทางแอดมินเลยขอมาแนะนำเคล็ดลับผิวสวย วิธีดูแลผิวกายและผิวหน้าให้ยังสวย และมีสุขภาพดี แม้ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านกันนะคะ
1. แม้อยู่บ้าน แต่ก็ยังจำเป็นต้องทาครีมกันแดด
คุณอาจจะคิดว่าอยู่บ้านไม่ได้ออกไปเจอแสงแดดข้างนอก ปลอดภัยแล้วสิเรา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดค่ะ ต่อให้เราอยู่แต่ในบ้าน เราก็จำเป็นต้องทาครีมกันแดดอย่าให้ขาดค่ะ เพราะแสงแดดสามารถทะลุผ่านมาตามช่องทางต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่าง หรือบานกระจก ดังนั้น เพื่อผิวสวย ไม่คล้ำเสีย อยู่บ้านก็ต้องทาครีมกันแดดกันทุกวันนะคะ ทั้งผิวหน้าและผิวตัวค่ะ
ปกป้องผิวด้วยโลชั่นกันแดด Sunscreen
ปิดท้ายบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระแล้วตามด้วยครีมกันแดด เพื่อเคลือบผิวชั้นนอกและป้องกันมลภาวะและรังสียูวีได้เต็มประสิทธิภาพ ควรเลือกที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป สำหรับคนผิวมันมาก หลังลงเซรั่มแล้วสามารถใช้ครีมกันแดดได้เลยเพราะให้ความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว
ชีร่าจิงเส็งกลูต้าไวท์พลัส SPF50 PA+++ (คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่รูปค่ะ)
เป็นโลชั่นครีมโสม โลชั่นผิวขาว บำรุงผิวกายด้วยสารสกัดจากโสมและกลูต้าไธโอนสูตรเข้มข้น ปรับสภาพผิวแลดูสว่างกระจ่างใส ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด UV Protection SPF50 PA+++ และด้วยคุณสมบัติสารบำรุงผิว ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน สีผิวเปล่งประกายให้คุณกล้าเผยผิวสุขภาพดีได้อย่างมั่นใจ คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง เห็นผลตั้งแต่หลอดแรกที่ใช้ เราใส่ใจในผิวของคุณ จึงได้คิดค้นสูตรลับโลชั่นผิวขาว ผิวขาวที่มีส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์และบำรุงผิว เร่งขาว เร่งเนียน
2. ระวังแสงสีฟ้าจากหน้าจอทำร้ายผิว
ช่วงนี้หลายบริษัทต้อง Work From Home และดูเหมือนว่าการทำงานอยู่บ้าน ยิ่งทำให้เราอยู่กับงานนานกว่าวันที่เข้าออฟฟิศเสียอีก ทำงานก็ทำผ่านหน้าจอ ประชุมงานก็ต้องประชุมผ่านหน้าจอ บางทีเลิกงานก็มานั่งเล่นโทรศัพท์ต่อ อาจทำให้ผิวเราต้องเจอกับแสงสีฟ้ามากขึ้น และแสงสีฟ้าเกี่ยวอะไรกับผิวของเรา จริงๆ แล้วยังไม่มีงานวิจัยที่สรุปแน่ชัดว่า แสงสีฟ้าทำร้ายผิวจริงๆ
แต่ก็พอมีบางงานวิจัยที่ได้ลงมือหาคำตอบ อย่างเช่น จากงานวิจัยในปี 2013 ที่ทำขึ้นโดย Lipo Chemicals ได้สรุปไว้ว่า ผละกระทบจากแสงสีฟ้าที่ทำร้ายผิวได้เนี่ย มันพอๆ กับแสง UVA กับ UVB ทำได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดจุดด่างดำ และรวมถึงปัญหาริ้วรอย ผิวที่แก่ขึ้น อีกทั้งหากเราเล่นสมาร์มโฟนก่อนนอน แสงสีฟ้าที่ว่านี้ก็ยังไปรบกวนฮอร์โมนเมลาโทนิน ที่ช่วยให้นอนหลับ พอมันถูกรบกวน ก็จะทำให้เรานอนหลับไม่สนิท ส่งผลเสียทางอ้อมให้กับผิวได้ค่ะ ก็เอาเป็นว่าเพื่อความปลอดภัย ก็หันหน้าเข้าจออย่างระวัง อย่าใช้เวลากับสิ่งนี้มากจนเกินไปนะคะ
3. อยากเอามือไปจับหรือแกะสิว
อีกหนึ่งปัญหาที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ คนเราส่วนใหญ่เวลาอยู่บ้านว่าง ๆ จะชอบมีพฤติกรรมเอามือจับหน้าให้เพลิน ๆ หรือบางคนเป็นสิวก็ชอบเอามือมาแกะ อาจจะหวังว่าสิวจะยุบโดยเร็ว แต่ความเป็นจริงแล้วการเอามือจับผิวหน้าบ่อยๆ ทำให้ผิวเสียได้ เสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียจากมือ หากมือเราไปสัมผัสเชื้อ COVID-19 ก็ยังอันตรายเข้าไปใหญ่ และการแกะสิวก็ไม่ได้ทำให้สิวหายเร็วอยากที่คิด ทำให้สิวอักเสบกว่าเดิม และอาจทิ้งรอยแผลเป็นหลังสิวยุบอีกด้วยนะคะ เห็นอย่างนี้แล้ว ถ้าอยากมีผิวสวย แต่ควบคุมมือตัวเองไม่มีไปเกาะแกที่ผิวหน้าเราบ่อย ๆ แล้วล่ะค่ะ
4. งดแต่งหน้าบ้างให้ผิวได้หายใจ
เวลาสาวๆ ออกจากบ้าน สิ่งที่หายลืมเลยก็คือ การแต่งหน้าใช่ไหมล่ะคะ ในแต่ละวันผิวเราถูกเกาะไปด้วยชั้นของรองพื้นและแป้งฝุ่น พร้อมด้วยเครื่องสำอางอีกมากมาย แน่นอนว่ามันทำให้เราสวยขึ้น แต่สิ่งที่ตามมาคือ ผิวเราอาจอุดตัน เกิดปัญหาสิวได้ ถ้าเราล้างหน้าไม่สะอาด ดังนั้น การอยู่บ้านไม่ได้ออกไปพบปะใครก็เป็นโอกาสอันดีที่จะให้ผิวเราได้พักหายใจ อยู่บ้านคลีนๆ ไม่มีเครื่องสำอางมากวนใจค่ะ
5. แต่อย่าละเลยการบำรุงผิวขั้นพื้นฐานอย่างสม่ำเสมอ
แม้จะให้ลองงดแต่งหน้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทาหรือไม่บำรุงอะไรบนผิวหน้าเลยนะคะ อะไรที่ดีต่อผิว บำรุงผิวไปอีกขั้นก็ต้องประโลมเข้าไว้ค่ะ อย่างการบำรุงผิวขั้นพื้นฐานห้ามละเลยเชียวนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าให้สะอาด ทาเซรั่ม ครีมบำรุงผิวต่าง ๆ
ขั้นตอนการบำรุงด้วย Serum และ Cream
ขั้นตอนสำหรับเติมสารบำรุงให้ผิว มีทั้งในรูปแบบเซรั่มหรือไนท์ครีม กรรมวิธีการผลิตจะพิถีพิถันกว่าสกินแคร์ตัวอื่นๆ
เพราะเน้นส่วนผสมเข้มข้นแต่อยู่ในรูปแบบเนื้อเบาเพื่อให้สามรถซึมซาบลงไปถึงผิวชั้นลึกๆ ได้ เพราะฉะนั้นเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ควรมีโดยเน้นคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมผิวและป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ซึ่งทางชีร่า ได้มีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยคุณในส่วนนี้ 2 ตัว คือ
เซรั่มไฮยาลูรอน เข้มข้น 10 เท่าและโมเลกุลเล็กว่า ซึมสู่ผิวได้แล้ว และเก็บน้ำให้กับผิวได้มากกว่า 1000 เท่า พร้อมวิตามินซีเข้มข้นอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมของกรด l-ascorbic กรด ferulic วิตามินอี และเอนไซม์ที่สนับสนุนการปกป้องผิวจากมลภาวะและความเสียหายของอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการลดเลือนนริ้วรอยและจุดด่างดำช่วยให้ผิวหน้ากระชับ เรียบเนียน ดูเปล่งปลั่ง
เซรั่มที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี อุดมไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างสารสกัดจากบลูเบอรี่และว่านหางจระเข้ที่ช่วยให้เปล่งปลั่ง ดูสดใส
นวัตกรรมและสารสกัดของชีร่าไวท์บูสเตอร์เซรั่ม (คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่รูปค่ะ)
ช่วยดูเเลปัญหาผิว บำรุงได้อย่างล้ำลึกถึงระดับเซลล์ผิว ผู้ที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ มีสิว ลดรอยสิว ลดเลือนริ้วรอย ฝ้าเเละจุดด่างดำ ปรับผิวให้กระจ่างใส รูขุมขนกระชับ
ชีร่าไนท์บูสเตอร์ครีม (คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่รูปค่ะ)
แม้ชีวิตความเป็นอยู่จะเปลี่ยนไปบ้าง แต่บางที่วิกฤตก็เป็นเหมือนโอกาส มีเวลาให้ผิวของเราได้พักหายใจ และฟื้นฟูได้เต็มที่ และเราดูแลผิวอย่างถูกวิธี ผิวเราอาจจะสวยขึ้นยิ่งกว่าเดิมก็ได้ในช่วงเวลาแบบนี้ค่ะ